--เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม--
ประวัติพระอธิการอิน ประวัติพระอธิการอยู่ ประวัติพระครูสีลสารสุนทร (เพด) ประวัติพระครูนุต ประวัติพระครูบุรณศรัทธาจาร (บุญ) ประวัติพระปริยัติโกศล (ริด) ประวัติพระปริยัติโกศล (กล่ำ) ประวัติพระครูศีลขันธ์สุนทร (เปรม) ประวัติพระครูโวทานธรรมาจารย์ (หวาด)
ประวัติพระศิริชัยโสภณ (บุญเสริม)

สถานะเดิม
       ชื่อ บุญเสริม ชนะฤทธิ์ เกิดวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีวอก วันที่ ๒๒ เดือน กันยายน พ.ศ.๒๔๙๙ นามบิดา นายสวย นางสำราญ ชนะฤทธิ์
        ณ บ้านเลขที่ ๓/๑ ตำบลช่างเหล็ก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

บรรพชา
       วันอาทิตย์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๑๔ ณ วัดดาวดึงษาราม กรุงเทพมหานคร
       พระเทพปริยัติวิธาน (บุศย์ โกวิโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม กรุงเทพมหานคร ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูโสภณธรรมาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท
       วันศุกร์ที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๙ ณ วัดดาวดึงษาราม กรุงเทพมหานคร
       พระเทพปริยัติวิธาน (บุศย์ โกวิโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม กรุงเทพมหานคร ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูโสภณธรรมาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
       พระราชปริยัติโมลี (วงศ์ อาภากโร) วัดชนะสงคราม ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระกวีวงศ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
       พระเทพมุนี (๊ธีร์ มหาธีโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระปริยัติธีรคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

วิทยฐานะ
       พ.ศ.๒๕๑๐ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนประชาบาล วัดโรงหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
       พ.ศ.๒๕๑๗ สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
       พ.ศ.๒๕๒๔ สอบได้ประโยค ป.ธ.๕ สำนักเรียนวัดดาวดึงษาราม กรุงเทพมหานคร
       พ.ศ.๒๕๒๖ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี พุทธศาสาตรบัณฑิต (พธ.บ.)
       พ.ศ.๒๕๔๗ สำเร็จการศึกษาปริญญาโท พุทธศาสาตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.)

การปกครอง
       พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
       พ.ศ.๒๕๓๐ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง
       พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นเจ้าคณะแขวงบางยี่ขัน
       พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม

การศึกษา
       พ.ศ.๒๕๒๐-ปัจจุบัน เป็นครูสอบโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี สำนักเรียนวัดดาวดึงษาราม
       พ.ศ.๒๕๒๖ เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง
       พ.ศ.๒๕๒๖-๒๕๓๖ เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดดาวดึงษาราม
       พ.ศ.๒๕๓๑ เป็นกรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวง
       พ.ศ.๒๕๓๔ เป็นพระปริยัตินิเทศก์ส่วนกลาง

สมณศักดิ์
       พ.ศ.๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษที่ พระครูบวรสิกขการ
ประวัติพระอธิการอิน

        ประวัติเบื้องต้นของท่านยังไม่ปรากฎมากนัก สันนิษฐานว่า เป็นพรสงฆ์ชาวลาวที่มีความคุ้นเคยกับเจ้าจอมแว่น ครั้นเจ้าจอมแว่นสร้างวัดดาวดึงษารามแล้ว จึงได้นิมนต์ท่านมาครองวัดดาวดึงษารามนี้ ท่านมีอายุมาจนถึงรัชกาลที่ ๒ ถึงมรณภาพเมื่อไหร่ ไม่ปรากฎ


ประวัติพระอธิการอยู่

       ประวัติพระอธิการอยู่ ในชั้นเบื้องต้นไม่สามารถสืบได้ มีปรากฎเพียงนามของท่าน ในจดหมายเหตุรัชกาลที่ ๓ เรื่องบัญชีพระสงฆ์รับพุ่มเทียน ต่อพระหัตถ์ พ.ศ.๒๓๖๗-๒๓๗๑ ว่า

วัดดาวดึง อาจารย์อยู่ ๑


ประวัติพระครูสีลสารสุนทร(เพด)

       สืบประวัติเบื้องต้นไม่ได้ว่าเป็นมาอย่างไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจากพระอธิการอยู่ เป็นพระสมุห์ ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษารามในพระราชทินนามที่ พระครูสีลสารสุนทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๖ มีสำเนาแต่งตั้งดังนี้         ให้พระสมุห์ (เพด) วัดดาวดึงษ เป็นพระครูสีลสารสุนทรมีนิตยภัตร ราคาเดือนละ ๑๒ ขอพระคุณจงเอาธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอนช่วยระงับอธิการและสงเคราะห์พระภิกษุสามเณร ในพระอารามโดยสมควร จงมีสุขสวัสดิ์เจริญในพระพุทธศาสนาเทอญ ท่านได้มรณภาพเมื่อไหร่ไม่ปรากฎ สันนิษฐานว่า มรณภาพในราวก่อนปี พ.ศ.๒๔๐๘ สืบประวัติได้เพียงเท่านี้


ประวัติพระครูนุต

        ท่านเป็นพระฐานานุกรมของพระครูสีลสารสุนทร ครั้งพระครูสีลสารสุนทรมาณภาพท่านได้ครองวัดสืบต่อมา และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม แต่ไม่ทราบราชทินนาม มรณภาพในสมัยรัชกาลที่ ๔


ประวัติพระครูบุรณศรัทธาจาร (บุญ)

       นามเดิมว่า บุญ ประวัติท่านเบื้องต้น ท่านเคยเป็นข้าหลวงเดิมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังได้อุปสมบทที่วัดดาวดึงษาราม ในสมัยพระครูนุต ครั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสด็จฯ มาทรงถวายผ้าพระกฐินที่วัดดาวดึงษาราม ทรงจำได้และทรงมีพระราชปฏิสันถารด้วย ครั้นพระครุนุตมรณภาพลง จึงได้ทรง ตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูบุรณศรัทธาจาร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๙ ท่านครองวัดถึงเมื่อไหร่สืบความไม่ได้ คงมรณภาพในสมัยรัชกาลที่ ๕


ประวัติพระปรัยัติโกศล (ริด)

        นามเดิมว่า ริด เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ พ.ศ.๒๓๖๘ อุปสมบทในสมัยรัชกาลที่ ๔ พ.ศ.๒๓๙๗ เมื่ออายุได้ ๒๙ ปี ณ วัดเทวราชกุญชร แต่ไม่ปรากฏว่าใครเป็นพระอุปัฌชาย์ ต่อมาได้เป็นพระปลัดแล้วทรงโปรดให้มารั้งตำแหน่งวัดดาวดึงษาราม จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูปริยัติโกศล เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม และถึงแก่มรณภาพ เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๘ ศิริอายุได้ ๖๑ ปี พรรษา ๓๒ ดังความประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า
       พระครูปรัยัติโกศล (ริด) วัดดาวดึงษาราม อาพาทเป็นไข้ทรพิศม์ มาแต่วันอังคารเดือน ๖ แรมแปดค่ำปีจอ อัฐศก ได้หาหมอ เชลยศักรักษาอาการหาคลายไม่ ครั้น ณ วันจันทร์ เดือน เจด ปีจอ อัฐศก เวลาบ่าย ๕ โมงเสส พระครูปริยัติโกศล ถึงแต่มรณภาพ อายุศม ๖๑ ปี พรรษา ๓๒ โปรดเกล้าฯให้เจ้าพนักงานจัดหีบก้าน แย่งไปรองศพตามสมควร



ประวัติพระปรัยัติโกศล (กล่ำ)

        นามเดิมว่า กล่ำ เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ พ.ศ. ๒๓๗๘ ครั้นอุปสมบทแล้วได้เป็นพระสมุห์ฐานานุกรมในพระครูปรัยัติโกศล (ริด) ถึงแก่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๒ ในรัชกาลที่ ๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูปริยัติโกศล ตามประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาว่า
       "พระสมุห์กล่ำวัดดาวะดึงษ์ เป็นพระครูปรัยัติโกศล เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษ์ มีนิตยภัตร เดือนละ ๒ ตำลึง พระราชทานตาลิปัตพุดตานหักทองขวางแลอื่นๆ เหมือนพระครูสุนทรทรากษรวิจิตร์"
       (พระครูสุนทรทรากษรวิจิตร วัดพระยาธรรมได้รับพระราชทานพระไตรสลับแพร พัดรองโหมดเทศ ย่ามหักทองขวางที่ขอบ ย่ามอัตลัต บาตรถุงอัดตลัด พระโถนถาน้ำถมปัด ผ้าขาวพับหมากพลูธูปเทียนพร้อมเครื่อง)
        ท่านครองวัดดาวดึงษารามจนกระทั่งถึงปี พ.ศ.๒๔๕๘ ได้ขอพระบรมราชานุญาตลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสเหตุด้วยมีความชราภาพและอาพาธ ทรงพระราชทานยกขึ้นเป็น เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ จากนั้นท่านได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสามกุฏิ จากนั้นญาติของท่านได้นิมนต์ท่านไปจำพรรษาที่วัดสะพานสูง (เข้าใจว่าญาติท่านไ้ดอาศัยอยู่แถวนั้นคงจักได้อุปัฏฐานท่านได้ง่าย) ท่านได้ถึงแก่มรณภาพที่วัดสะพานสูงนี่เอง เมื่อวันที่ ๑๒ เดือนมีนามคม สิริอายุได้ ๘๙ ปี ดังความประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า
       พระครูปริยัติโกศล(กล่ำ) เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ วัดดาวดึงษาราม จังหวัดธนบุรี อายุ ๘๙ ปี อาพาธเป็นโรคชราถึงแก่มรณภาพ วันที่ ๑๒ มีนาคม พระพุทธศักราชที่ ๒๔๖๗



ประวัติพระครูศีลขันธ์สุนทร (เปรม)

        นามเดิมว่า เปรม เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๒ ในรัชกาลที่ ๔ ได้อุปสมบทที่วัดสังเวชวิศยาราม แล้วได้เป็นพระสุมห์ฐานานุกรมในพระวิสุทธิสังวรเถร (กล่อม) เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม ครั้ง พ.ศ. ๒๔๕๘ พระครูปริยัติโกศล (กล่ำ) ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม เหตุผลเพราะชราภาพและทุพพลภาพ จึงได้โปรดมาครองวัดดาวดึงษาราม ครั้นถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ศกเดียวกันนี้ ทรงตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูศีลขันธ์สุนทร เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม ดังความประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่นที่ ๒๑ ว่า

ให้พระสมุห์เปรม วัดดาวดึงษ์ เป็นพระครูศีลขันธ์สุนทร เจ้าอาวาส

        ท่านมาครองวัดดาวดึงษารามได้เพียง ๕ ปี ก็ถงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๓ มีประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาว่า
        พระครูสุนทรศีลขันธ์สุนทร (เปรม) เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม อายุ ๖๑ ปี อาพาธเป็นโรคลำไส้พิการ ถึงมรณภาพวันที่ ๓๐ เดือน สิงหาคม พระพุทธศักราชที่ ๒๔๖๓



ประวัติพระครูโวทานธรรมาจารย์ (หวาด)

        นามเดิม หวาด นามฉายา สุธมฺโม นามสกุล สาระมณี เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ ปีชวด จุลศักราช ๑๒๓๘ ตรงกับวันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๑๙ ที่บ้านตำบลบ้านคลัง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
        เมื่อท่านมีอายุ ๘ ปี ได้ไปอยู่กับพระอาจารย์รอด ที่วัดพิกุล ซึ่งอยู่ใกล้บ้านคนละฝั่งแม่น้ำ ได้เรียนหนังสือไทยกับพระอาจารย์รอด ครั้นอายุ ๑๕ ปี ได้ไปอยู่กับพระธรรมราชานุวัตร (สอาด)ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระยาไตรโลก วัดศาลาปูน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อศึกษาเล่าเรียนต่อ แล้วบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศาลาปูน ครั้นอายุครบอุปสมบทได้มาอุปสมบท ที่วัดพิกุล เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๔๔๐ โดยมีพระธรรมราชานุวัตร (สอาด) เป็นพระอุปัชฌาย์


        เมื่ออยู่วัดศาลาปูน ได้รบสมณศักดิ์เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมของพระยาไตรโลก (สะอาด) ครั้นอยู่ได้ประมาณ ๕ พรรษา ได้ติดตามพระมหาตรึกไปจำพรรษาที่วัดป่าโมกข์ อ่างทอง จำพรรษาอยู่ ๒ ปี แล้วกลับมาอยู่วัดศาลาปูนเช่นเดิม อยู่ได้ประมาณ ๑ ปี ราวปี ๒๔๔๘ ได้ย้ายลงมาอยู่ที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร เพื่อเรียนหนังสือบาลีต่อ เมื่ออยู่วัดมหาธาตุ ท่านได้เข้าแปลพระปรัยัติธรรมที่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามหลายครั้ง แต่แปลได้เพียง ๒ ประโยค จึงไม่ได้เป็นเปรียญ ถึงแม้ท่านจะไม่ได้เป็นเปรียญ แต่ท่านก็มีความรู้กว้างขวางในพระปรัยัติธรรม โดยเฉพาะเรื่องนิทาน หรือ ชากด ท่านมีความรู้ จดจำได้มาก ท่านจึงเป็นพระธรรมกถึกแสดงพระธรรมเทศนามีชื่อเสียงมาก พุทธศาสนิกชนนิยมฟังพระธรรมเทศนาของท่านมาก ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ในระหว่างอยู่วัดมหาธาตุท่านได้รบสมณศักดิ์เป็นพระครูใบฎีกา ฐานานุกรมของเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (ฑิด อุทยมหาเถระ) แล้วเลื่อนขึ้นเป็นพระครูธรรมคุต ฐานานุกรมของเจ้าประคุณสมเด็จองค์นั้น
        ในปี พ.ศ.๒๔๖๔ ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษารามได้ว่างลง เพราะเหตุว่าท่านพระครูศีลขันธ์สุนทร (เปรม) เจ้าอาวาสได้เริ่มทำการบูรณปฏิสังขรณ์ยังไม่ทันเรียบร้อยก็ถึงแก่มรณภาพ และพระมหาทัตผู้รั้งเจ้าอาวาสก็ลาสิกขา สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารีเถร) ขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์เป็นพระเทพโมลี เป็นเจ้าคณะแขวงบางกอกน้อย ได้เล็งเห็นความสามารถของท่าน รวมทั้งในการบูรณปฏิสังขรณ์ จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตให้ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษารามแห่งนี้ ท่านได้ย้ายจากวัดมหาธาตุมาอยู่ที่วัดดาวดึงษารามแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๔๖๔         ต่อมาท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น พระครูโวทานธรรมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม เมื่อวันที่่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๗ ตามพระราชกิจจนุเบกษาว่า
"ให้พระครูธรรมคุต วัดดาวดึงส์ เป็นพระครูโวทานธรรมาจารย์ เจ้าอาวาส"
       ช่วงที่ท่านมาครองวัดดาวดึงษรามแห่งนี้ ท่านได้เทศน์สั่งสอนญาติโยมที่วัด และได้รับนิมนต์ไปเทศน์ตามต่างจังหวัดใกล้ไกล เป็นประจำอยู่เสมอมิได้ขาด รวมทั้งได้ปฏิสังขรณ์วัดด้วย        ท่านเริ่มอาพาธตั้งแต่สิงหาคม ๒๕๐๒ ชั้นแรก ฉันอาหารไม่ค่อยได้ และมีอาการเหน็ดเหนื่อย หายใจไมสะดวก ศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ ปรากฏว่าท่านเป็นมะเร็งในปอด แล้วโรคได้กำเริบมากและอาการได้ทรุดลง จึงได้นำท่านกลับวัด และถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๐๓ รวมอายุของท่านได้ ๘๓ ปีเศษ ท่านได้ครองวัดดาวดึงษารามเป็นเวลา ๓๙ ปีเศษ




เพจวัดดาวดึงษาราม
ธรรมะ-คติธรรม

อาสาฬหบูชา_วันแห่งการเปิดใจยอมรับความจริง ปกติมนุษย์ในโลกย่อมชำนาญต่อการปิดกั้นหัวใจ..อ่านเพิ่ม

ถ้าผมจะบอกคุณว่า "กิเลสมันพันอยู่ที่ขันธ์5 ตัณหามันร้อยอยู่ที่โลกธรรม8"อ่านเพิ่ม

วัตถุมงคล